เพื่อให้วันพักผ่อนของคุณเป็นวันที่พิเศษ เหมาะกับความต้องการ การเลือกที่พักก็เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญมากๆ ทางทีมงาน www.maldiveslover.com มีข้อแนะนำเบื้องต้นในการเลือกรีสอร์ทในมัลดีฟส์มาฝากค่ะ
ข้อแนะนำเบื้องต้นในการเลือกรีสอร์ทในมัลดีฟส์
เน้นอะไร ชอบอะไรเป็นหลัก เลือกแบบนั้น เช่นบางท่านชอบดำน้ำตื้นดูปะการัง ดูปลาตามแนวปะการัง แนะนำให้เลือกรีสอร์ทที่มีปะการังรอบเกาะเลยค่ะ เนื่องจากเกาะต่างๆในมัลดีฟส์อาจมีสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน บางเกาะอาจไม่มีหรือมีปะการังน้อยมาก หากต้องการดำน้ำชมปะการังก็ต้องเสียเงินเพิ่มในการซื้อทริปออกไปดำน้ำนอกเกาะ ในขณะที่บางเกาะมีปะการังรอบเกาะประมาณว่าลงจากหน้าห้องก็เจอแนวปะการังได้เลยค่ะ
บางท่านไม่เน้นปะการังแต่อย่าได้ห้องสวยมี pool ส่วนตัวก็จะมีหลายรีสอร์ทที่สามารถตอบโจทย์ได้ค่ะ หรือบางท่านสนใจอยากสัมผัสกับการทานอาหารในห้องอาหารใต้น้ำ แนะนำให้พักรีสอร์ทที่มีห้องอาหารใต้น้ำเลยจะคุ้มกว่า สะดวกกว่า ไม่ต้องเสียค่า transfer ไปมาระหว่างเกาะ ซึ่งราคาสูงมากค่ะ ปัจจุบันในมัลดีฟส์มีหลายรีสอร์ทที่มีห้องอาหารใต้น้ำ เช่น Conrad Rangali, Hurawalhi Island, Anantara Khihava, Ozen, Niyama Per Aqumm เป็นต้นค่ะ
การท่องเที่ยวมัลดีฟส์จะมีการเข้า-ออกเกาะอยู่ 3 แบบ หลักๆ ดังนี้ค่ะ
2.1 เดินทางด้วยเรือเร็ว ( Speedboat)
จะใช้สำหรับรีสอร์ทที่อยู่ไม่ห่างจากสนามบิน การเดินทางด้วย speedboat มีข้อดีคือไม่ต้องรอนาน หลายรีสอร์ทจะมี Speedboat เป็นของตัวเองเพื่อรับส่งแขกของรีสอร์ทในการเข้า ออก เกาะ ค่อนข้างสะดวกมากค่ะ สำหรับข้อเสียก็คือ จะไม่ได้เห็นวิวมัลดีฟส์จากมุมบน
2.2 เดินทางด้วยเครื่องบินน้ำ (Seaplane)
การเดินทางด้วย Seaplane เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่หลายท่านสนใจ โดยเครื่องบินจะขึ้นและลงบนน้ำ น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง มัลดีฟส์เป็นประเทศที่มี Seaplane Fleet ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
การเดินทางด้วย Seaplane เป็นที่นิยมมากในการท่องเที่ยวมัลดีฟส์ ปรกติแล้วจะใช้สำหรับเดินทางเข้าเกาะที่อยู่คนละ Atoll ในระยะทางไม่เกิน 1 ชั่วโมง เพื่อความปลอดภัย Seaplane จะให้บริการเฉพาะช่วงที่มีแสงอาทิตย์เท่านั้นดังนั้นหากท่านต้องการเข้าเกาะในวันเดียวกัน ต้องหา Flight ที่มาถึงมัลดีฟส์ไม่เกิน 15.30 น. เนื่องจาก Seaplane จะปิดเช็คอินประมาณ 16.00 น.
การเช็คอิน Seaplane ก็ง่ายมากค่ะ ถ้าซื้อเป็น Package จากทางเรา เราจะประสานงานแจ้งทางรีสอร์ทโดยก็จะมีเจ้าหน้าที่รีสอร์ทรอต้อนรับที่สนามบินและคอยอำนวยความสะดวกในการเช็คอินให้
"เรามาทำความรู้จักกับ Seaplane เบื้องต้นกันนะคะ"
ข้อดีในการเดินทางด้วย Seaplane ท่านจะได้เห็นภูมิประเทศของมัลดีฟส์ ซึ่งจะไม่เหมือนที่อื่นในโลก จากมุมบนท่านสามารถเห็นเกาะต่างๆ ซึ่งเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทหลากหลาย นับเป็นภาพความประทับใจที่ไม่รู้ลืม
ข้อเสียในการเดินทางด้วย Seaplane อันดับแรกเลย คือ ราคาจะสูงกว่าการเดินทางด้วย Speedboat และบางครั้งอาจต้องรอ Seaplane ใน Terminal นานนิดนึงค่ะ อีกอย่างก็คือ Seaplane จะมีเสียงดัง แต่ก็สามารถใช้ที่อุดหูช่วยได้ค่ะ นั่งไปซักพักก็จะชิน และ Seaplane จะไม่มีแอร์ (มีพัดลมและท่ออากาศ) ดังนั้นก่อนเครื่องขึ้นอาจร้อนนิดหน่อย แต่เมื่อขึ้นไปแล้วอากาศข้างนอกเข้ามาก็จะเย็นสบาย
2.3 เดินทางด้วยเครื่องบินภายในประเทศ +เรือเร็ว (Domestic Plane + Speedboat)
ใช้สำหรับรีสอร์ทที่อยู่ไกลจากระยะที่ Seaplane บิน โดยจะต้องบินเครื่องบินในประเทศไปลงที่เกาะท้องถิ่นที่มีสนามบินและต่อ Speedboat ของแต่ละรีสอร์ทเพื่อเดินทางเข้าเกาะต่อไป ซึ่งระยะทางและเวลาจะต่างกันตามที่ตั้งของรีสอร์ทนั้นๆ
เรามาทำความรู้จักกับ Package หรือ Meal Plan ต่างๆในการท่องเที่ยวมัลดีฟส์กันก่อนนะคะ
3.1 ALL INCLUSIVE (AI)
แพคเกจ All Inclusive เป็นแพคเกจที่ได้รับความนิยมอย่างสูงสำหรับผู้ที่เดินทางไปมัลดีฟส์ เนื่องจากได้รวมค่าใช้จ่ายต่างๆที่จำเป็นสำหรับการท่องเที่ยวในมัลดีฟส์ไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น ค่าเดินทางเข้าเกาะ ค่าอาหาร/เครื่องดื่ม 3 มื้อหลัก (บางรีสอร์ทมีมื้อสายและมื้อบ่ายให้ด้วย) และยิ่งไปกว่านั้นในหลายๆรีสอร์ทก็ยังได้รวมกิจกรรม และ กีฬาทางน้ำไว้ในแพคเกจนี้เพื่อให้บริการอีกด้วย ข้อดีของแพคเกจลักษณะนี้คือนักท่องเที่ยวสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ ค่าใช้จ่ายในมัลดีฟส์ค่อนข้างสูงโดยเฉพาะค่าอาหาร/เครื่องดื่ม เพราะประเทศมัลดีฟ์มีลักษณะเป็นเกาะ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ ทำให้ต้นทุนสูงจึงเป็นผลให้ค่าใช้จ่ายต่างๆสูงตามไปด้วย แพคเกจ All Inclusive ของแต่ละรีสอร์ทจะแตกต่างกันไปดังนั้นแนะนำว่าควรตรวจสอบให้ดีก่อนทำการจอง
3.2 Full Board (FB)
Full Board เป็นแพคเกจรวมที่พัก และ อาหาร 3 มื้อ (เช้า กลางวัน เย็น) ไม่รวมเครื่องดื่ม ซึ่งรีสอร์ทจะจัดไว้ในห้องอาหารหลัก อาหารที่ให้บริการก็จะสลับสับเปลี่ยนไปตามเมนูในแต่ละมื้อ และการเปิดให้บริการก็มักจะมีการกำหนดเวลาที่แน่นอน ถ้าผู้เข้าพักพลาดการเข้าใช้บริการตามกำหนดเวลานั้น จะถือว่าสละสิทธิ์
3.3 Half Board (HB)
แพคเกจ Half Board เป็นแพคเกจที่พักรวมอาหารเช้าและอาหารเย็น (ไม่รวมมื้อเที่ยง) แต่บางรีสอร์ทเปิดโอกาสให้แขกหรือผู้เข้าพักเลือกเป็นมื้อเช้าและมื้อเที่ยงได้ แพคเกจนี้โดยทั่วไปจะไม่รวมเครื่องดื่มหรือกิจกรรม แพคเกจ Half Board เป็นอีกหนึ่งแพคเกจที่เป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการทำกิจกรรมในช่วงกลางวันแบบต่อเนื่อง
3.4 Bed and Breakfast (BB)
แพคเกจแบบ Bed and Breakfast เป็นแพคเกจที่พักรวมอาหารเช้า 1 มื้อ เท่านั้น เหมาะสำหรับผู้ชอบเล่นกิจกรรมและอยากสั่งอาหารตามที่ตัวเองชอบ ผู้เข้าพักสามารถเปลี่ยนบรรยากาศ โดยการเปลี่ยนร้านอาหารไปในแต่ละมื้อ
สรุปก็คือ หากต้องการคุมงบประมาณไม่ให้บานปลายการเลือกมื้ออาหารแบบ All Inclusive ดูจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสม แต่หากเป็นคนไม่ดื่มแอลกอฮล์ ไม่เล่นกิจกรรม การเลือกแบบ All Inclusive ก็ไม่จำเป็นค่ะ
รีสอร์ทในมัลดีฟส์มีให้เลือกมากกว่า 100 รีสอร์ท และยังมีรีสอร์ทใหม่เปิดตัวอยู่เรื่อยๆ ยิ่งรีสอร์ทสวย หรูเท่าไหร่ราคาก็สูงขึ้นตาม การตั้งงบประมาณจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น รีสอร์ทหลายแห่งในมัลดีฟส์ Package จะรวมแค่อาหารเช้าเท่านั้น โดยที่ลูกค้าจะต้องมีค่าใช้จ่ายค่าอาหารเครื่องดื่ม เพิ่มเติม ซึ่งราคาอาหารเครื่องดื่มในมัลดีฟส์ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะรีสอร์ท 5 ดาว
ในกรณีที่มีงบจำกัดการเลือกรีสอร์ทที่มี All Inclusive Plan ก็ดูจะเป็นทางเลือกที่ดีเพราะสามารถควบคุมงบประมาณได้ดีในระดับนึงเลยค่ะ
นอกจากนี้การเดินทางเข้าเกาะด้วย Speedboat, Seaplane หรือ Domestic Plane ก็มีส่วนทำให้ราคาต่างกันเช่นกันค่ะ หากสนใจรีสอร์ทแบบไหนก็สามารถสอบถามทีมงานได้นะคะ ยินดีให้ข้อมูลเต็มที่ค่ะ
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 090 912-0987, 081 701-0091
Facebook: All About Maldives
www.maldiveslover.com
|
|
|